ขั้นตอนการสร้างสระน้ำประดับสวน หรือสระเลี้ยงปลา
-
เรามีเครื่องคิดเลขและเครื่องมือช่วยคำนวณเพื่อให้
การวางแผนและออกแบบสวนน้ำประดับ สามารถทำได้สะดวกขึ้น!- ฟอร์มสำเร็จเพื่อคำนวณปริมาตรของสระ/Pond Volume Calculator
- ฟอร์มสำเร็จเพื่อคำนวณขนาดแผ่นยางรองพื้นกันซึม/ Pond Liner Size Calculator
- Surface Area Calculator
- ฟอร์มสำเร็จเพื่อประมาณขนาดของระบบกรองน้ำ/Selecting the Proper Pond Filter System
- ฟอร์มสำเร็จเพื่อคัดเลือกขนาดปั้มน้ำที่เหมาะสม/Selecting the Proper pond Size Pump
- รายละเอียดเกี่ยวกับ แผ่นยางรองพื้นกันซึม/Rubber Pond Liner
- Our Pond Kits/ชุดอุปกรณ์เพื่อสร้างสระน้ำ มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 225 gallons to 13,000 gallons
ขั้นตอนการก่อสร้างสระน้ำประดับสวน /a Pond โดยแผ่นยางรองพื้นกันซึม
- ขั้นแรกจะต้องพิจารณาชนิดของสระน้ำที่ต้องการสร้าง โดยจะต้องตัดสินใจว่าจะมีการเลี้ยงสัตว์น้ำหรือไม่? ประเภทใด?
จะเป็นปลาเงินปลาทอง หรือเลี้ยงปลาคราฟ? หรือโดยส่วนใหญ่จะใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชน้ำสวยงาม? หรือเราต้องการที่จะสร้างน้ำตกไว้ฟังเสียงน้ำเซาะตะหริ่ง
แต่ละแบบจะต้องมีการออกแบบโดยเฉพาะเนื่องจากจะใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน และคุณภาพของน้ำก็ต้องเป็นพิเศษเฉพาะ รวมถึงขนาดที่แตกต่างกันด้วย
ข้อผิดพลาดในการเริ่มต้นใหม่ ๆ คือสร้างสระที่เล็กเกินไปกับความต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากมัน ทำให้ปล่อยปลา และปลูกพืชได้ไม่เท่าที่ต้องการจริง
KOI POND/ สระน้ำสำหรับปลาคราฟ
สระน้ำสำหรับปลาคราฟจะต่างจากสระน้ำประดับสวน เพราะปลาคราฟ จะใช้พื้นที่ในการเติบโตมากทำให้ไม่สามารถปลูกพืชน้ำที่ต้องการได้เท่าที่ควร และพวกมันยังกินพืชผักเป็นอาหารอันโอชะอีกด้วย เติบโตเร็วและตัวใหญ่มาก การเลี้ยงปลาคราฟควรจะมีสระขนาดไม่ต่ำกว่า 1000 แกลลอนในปริมาตร ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดีในการเจริญเติบโต ปลาคราฟเป็นปลาที่มีราคาค่อนข้างสูงเป็นที่นิยม และสวยงามมาก ต้องการคุณภาพน้ำที่ดี อีกทั้งสระควรที่จะมีขนาดความลึกไม่น้อยกว่า 1 เมตร กว้างตั้งแต่ 1-1.5m และยาว 2m ขึ้นไป
WATER GARDEN/สระน้ำประดับสวน
สระน้ำประดับสวน มักจะใช้สำหรับเลี้ยงปลาเล็ก ๆ เช่นปลาเข็ม ปลาเงินปลาทอง และปลูกพืชน้ำ ในพื้นที่ที่อากาศไม่ร้อนมากก็ควรจะมีความลึกไม่ต่ำกว่า 60cm ความกว้างยาวขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบของสวน และพันธุ์ไม้ประดับที่ใช้เพื่อให้เกิดสมดุล สระน้ำจะเป็นองค์ประกอบที่สร้างความต่างเพื่อประโยชน์ทาง composition เพื่อสร้าง contrast อันจะทำให้องค์ประกอบอื่นโดดเด่นขึ้นได้ง่าย ใช้เป็นหลังฉากของฟอร์มที่สวย ๆ ของพันธุ์ไม้ก็จะทำให้ฟอร์มชัดเจนขึ้นมา เป็นต้น
- ขั้นตอนที่สองก็เห็นจะเป็นการเลือกหาทำเลที่เหมาะสมไม่บดบังโดยองค์ประกอบอื่นในสวนจากมุมองหลัก
สำหรับสวนหลังบ้านก็ไม่ควรที่จะห่างจากตัวบ้านมากนัก ควรจะเป็นจุดที่อยู่ในมุมมองจากส่วนที่เป็นศูนย์รวมของบ้านสามารถเห็นองค์ประกอบสำคัญ ๆของสวนน้ำได้ชัดเจน
อาจเสริมมุมมองด้วยไฟแสงสว่างเพื่อให้ชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืนได้ด้วย
สระน้ำมักจะเป็นศูนย์รวมของสัตว์นานาชนิดตั้งแต่กระรอก กระแต นก ผีเสื้อ ฯลฯ จึงเป็นมุมมองที่น่ารื่นรมย์ สระไม่ควรจะอยู่ในระดับที่น้ำล้นจากฝน ไหลลงได้โดยง่าย หากพื้นที่จำกัดก็ต้องหาวิธีบังคับทางน้ำสกปรกเหล่านั้นให้ห่างจากสระไหลอ้อมไปทางอื่นแทน สระน้ำยังไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ผลัดใบมากอีกด้วย ใบไม้และ ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ขยะจะต้องถูกกำจัดออกจากบ่ออย่างสม่ำเสมอ สระที่เลี้ยงบัวก็ต้องการแสงแดดโดยตรงสู่บ่ออย่างน้อย 4 ถึง 6 ชม/วัน สำหรับการเลี้ยงปลาในสระน้อยกว่านั้นก็ไม่สำคัญมากนัก ปัญหาการเน่าเสียของน้ำจะเกิดได้ง่ายและรวดเร็วในน้ำที่ไม่มีการเคลื่อนไหลอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้สามารรับเอาออกซิเจนมาอุ้มไว้ได้มากแล้วยังทำให้คุณภาพน้ำดีไม่เน่าเสียง่ายจากปฏิกิริยาอื่น ดีสำหรับสิ่งมีชีวิตในน้ำด้วย กังหันลมหรือปั้มจะดีมากสำหรับการนี้ อีกทั้งเสียงการไหลเซาะ กระเซ็นกระสายของน้ำยังดีต่อสุขภาพจิตของสิ่งมีชีวิตอีกด้วย ปั้มยังจำเป็นสำหรับระบบกรองน้ำ และขับเคลื่อนน้ำพุ น้ำล้น และน้ำตกที่สวยงามเหมาะสมที่จะใช้เป็นองค์ประกอบของสระน้ำ ระบบกรองที่ดีมีประสิทธิภาพสูงก็ต้องเป็นระบบ ที่ใช้ Biological media เป็นตัวย่อยสลายสิ่งปนเปื้อนในน้ำทั้งเหมาะกับการเลี้ยงพืชและสัตว์น้ำด้วย มีหลายแบบและขนาดที่เหมาะสมให้เลือกใช้
- ต่อไปก็ต้องคำนวณหาปริมาตรของสระน้ำประดับ หรือสระเลี้ยงปลาที่จะต้องได้รับการบำบัด.
วิธีที่ง่ายที่สุดก็โดยการใช้เชือกหรือสายยางลดน้ำมาขดตามรูปทรงของสระนั้นเพื่อประเมินหาความยาวขอบ แล้วคูณด้วยความลึกของสระ ประมาณไม่ต่ำกว่า 30cm เป็นอย่างต่ำ และสำหรับสระที่จะใช้เลี้ยงปลาคราฟ ก็ต้องลึกไม่น้อยกว่า 1 m ไม่ควรที่จะสร้างสระที่เล็กเกินไปเพราะจะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรและยังมีปัญหาเกี่ยวกับ สภาพน้ำมากกว่าสระขนาดใหญ่และดูแลรักษายากกว่าด้วย จำไว้ว่าสระเมื่อเสร็จแล้วจะมีขนาดลดลงเกือบ 30%จากขนาดเดิมที่ตีผังไว้ตอนเริ่มต้น หลังจากที่ตีผังลงบนพื้นที่จะสร้างแล้ว วัดขาดกว้ายาวที่มากสูดของกรอบของขอบนั้น แล้วแต่รูปร่างที่คุณจะสร้างบวกอีกสองเท่าของความลึกเข้าไปกับขนาดยาวสุดของแต่ละด้าน กว้าง ยาว ก็จะได้ขนาดของ แผ่นยางรองพื้นกันซึมที่ต้องใช้
- ขุดสระน้ำประดับสวน หรือสระน้ำเลี้ยงปลาให้ได้ความลึกและรูปร่างที่ต้องการ การขุดสระที่ดีควรที่จะมีขอบเป็นสองระดับ โดยขอบแรกจะลึกประมาณ
30cm และลาดเอียงลงไปโดยให้ขอบที่สองกว้างประมาณ 60cm หรือกว้างกว่าขอบบนหนึ่งเท่าตัวแล้วจึงขุดลาดไปยังความลึกที่ต้องการ (ดังแสดงในภาพประกอบ)
ขอบนี้จะใช้สำหรับการปลูกไม้น้ำประดับและวางหิน หรือกระถางไม้ประดับได้ง่าย และสะดวกในการทำงานดูแลรักษาต่อไปด้วย ด้านตรงกันข้ามกับส่วนที่จะจัดเป็นแนวน้ำตก
อาจขุดลาดลงไปเลยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ layout และฟอร์มของสวนน้ำประดับที่ต้องการ
ในกรณีที่จะใช้สระน้ำนี้มนการเลี้ยงปลาคราฟ เป็นส่วนใหญ่แล้วต้องเตรียมพื้นที่ที่ต่อเนื่องแต่แยกจากส่วนเลี้ยงปลาเพื่อไว้ลงสาหร่ายประเภทสาหร่ายหางกระรอก และอื่น ๆ ในปริมาณที่มากพอเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาตรน้ำที่จะต้องการการฟื้นฟูสภาพ สาหร่ายหางกระรอกจะช่วยเสริมออกซิเจน และ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการปรับสภาพน้ำตามธรรมชิติที่ดีมาก นับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบบำบัดโดย Biological System
- จัดวางตำแหน่งของระบบกรองชนิดติดตั้งภายนอก และหรือระบบกรองจากผิวน้ำ skimmersให้ได้ระดับ
และอยู่ในที่ที่เหมาะสมไม่รกตา
ระบบกรองจากผิวน้ำ skimmers จะต้องฝังที่ระดับเหนือผิวน้ำในระยะที่พอดีจึงจะทำงานมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบคู่มือสำหรับระยะที่แนะนำ
ของแต่ละประเภทให้แน่ใจก่อนลงมือ จะต้องขุดหลุมเผื่อไว้สำหรับการติดตั้งปั้ม เครื่องกรอง และระบบท่อจากบ่อไปสู่น้ำตก และน้ำพุแล้วแต่ดีไซน์
หากใช้ ระบบกรองจากผิวน้ำ skimmers ก็ต้องมีการต่อเชื่อมกับปั้มและระบบกรองธรรมชาติให้ถูกต้องด้วย และควรซ่อนแนวท่อเหล่านี้ใต้ดิน
แล้วต่อท่อส่งน้ำกลับสู่บ่อผ่านปากน้ำตก การที่จะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากระบบกรองน้ำพื้นผิว การติดตั้ง skimmer จะต้องคำนึงถึงทิศทางลม และกระแสน้ำไหลเวียนที่พื้นผิวแล้ว
วางตำแหน่ง skimmer ไปดักน้ำที่ปลายทางเพื่อดักเก็บขยะลอยให้ได้มากที่สุด
ควรที่จะสเกต หรือขีดเขียนแนวการต่อเชื่อมอุปกรณ์ลงเป็นแบบในกระดาษให้แน่ใจ แล้วค่อยขุดร่องเพื่อเดินท่อให้เชื่อมต่อกันให้พอดีทั้งในระยะ และการจัดวางระดับของแต่ละอุปกรณ์ การได้เขียนเป็นแบบขึ้นมาจะเป็นการดีในการทบทวนการเชื่อมต่อของระบบ ที่ต่อเนื่องกันทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อใช้เป็นเอกสารอ้างอิงขณะทำงานจริงได้ต่อไป แล้ยังสามารถหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ล่วงหน้าอีกด้วย
ข้อควรสังเกต:
- การจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ และแนวท่อต้องพยายามจัดวางในลักษณะที่หลบซ่อนให้พ้นจากสายตาให้ด้มากที่สุด
เพื่อให้สวนน้ำประดับ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งต้องคำนึงถึงการเข้าถึงเพื่อบำรุงรักษาได้สะดวกด้วย - การไหลเวียนที่ดีของน้ำเพื่อการปรับคืนสภาพ ควรจะเป็นการดึงน้ำจากก้นสระ
- สู่ระบบกรองแล้วส่งกลับที่ระดับพื้นผิว จะทำให้น้ำทั้งระบบหมุนเวียนได้ทั่วถึงที่สุด
- การจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ และแนวท่อต้องพยายามจัดวางในลักษณะที่หลบซ่อนให้พ้นจากสายตาให้ด้มากที่สุด
- การปูแผ่นรองพื้นใต้แผ่นยางกันซึมจำเป็น หลังจากที่จัดวางตำแหน่งอุปกรณ์และแนวท่อต่าง ๆ เชื่อมต่อกันแล้วโดยปราศจากการรั่วซึมใด ๆ แล้ว
ก็ควรตรวจสอบผิวพื้นทั่วบริเวณให้ปราศจากสิ่งแหลมคมและตบดินรอบบริเวณให้แน่นและเรียบพอประมาณจากนั้นก็ปูแผ่นรองพื้นใต้แผ่นยางกันซึม
โดยให้มีรอยต่อเชื่อมที่เหลื่อมกันประมาณ 30cm ตลอดแนวต่อเชื่อมแล้วเทปให้ติดกันเพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวขณะปูแผ่นยางทับ
พยายามให้มีแนวต่อเชื่อมให้น้อยที่สุด จึงจะนำแผ่นยางกันซึมมาวางเพื่อปูต่อไปได้
- แผ่นยางกันซึมจะถูกยกพับลงมาคลี่ออกที่กลางพื้นบ่อ หากเป็นแผ่นใหญ่ที่ไม่ต้องมีการต่อเชื่อมได้จะดีที่สุด
ขยับผืนยางที่คลี่ออกแล้วให้ได้กึ่งกลางกับสะดือสระและครอบคลุมขอบบ่อได้ทั่วถึงและมีขอบเหลือกว้างกว่าขอบจริงไม่น้อยกว่า 30cm โดยรอบ
พยายามไม่ให้มีการย่นพับซ้อนกันมากเกินจำเป็น ช่างที่ชำนาญในการปูแผ่นยางกันซึมจะใช้วิธีเติมน้ำลงไปในแผ่นยางเพื่อถ่วงให้ติดกับพื้นก้นบ่อให้มากที่สุด
แล้วจึงจัดที่เหลือจากขอบล่างไปขอบบนโดยรอบโดยใช้หินและวัสดุที่มีน้ำหนักวางทับแนวที่จัดแล้วไว้ แล้วเลื่อนจัดขอบไปโดยรอบไปเรื่อย ๆ จนบรรจบกัน
ที่ขอบบนก็จะต้องตรึงทับด้วยหินไว้โดยรอบเช่นกัน การเก็บขอบให้ขุดร่องเล็ก ๆ ห่างจากริมขอบสระ 15cm เป็นหลุมประมาณ 10cmกว้างX15cmลึก
แล้วยัดขอบไปฝังเก็บไว้ (ดูรูปท้ายบทในภาพการเก็บขอบประกอบ)
- น้ำประดับประเภทน้ำตก หรือธารน้ำไหลก็จะต้องดำเนินการต่อจากนี้
ส่วนใหญ่ในการทำน้ำตกจากระบบกรองติดตั้งภายนอกที่จะให้น้ำที่ล้นจาการบำบัดแล้วไหลออกตรงลงสู่สระที่ปากเครื่องกรอง
เราสามารถพัฒนารูปแบบการทำงานของเครื่องกรองชนิดนี้ สร้างเป็นน้ำตกขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสวยงาม เลือกบริเวณที่มีระดับสูงจากขอบสระพอประมาณเพื่อติดตั้งเครื่องกรอง
ดึงขอบของแผ่นยางรองพื้นมาแนบไปกับตัวเครื่องกรองใต้ปากทางน้ำล้นออก ตรึงเครื่องกรองให้แน่นหนาติดกับที่ หาหินมาวางดันให้แผ่นยางแนบกับตัวเครื่อง
พับขอบแผ่นยางเข้าในมาทับบนหินที่ดันมันไว้แล้วนำหินอีกก้อนมาวางทับบนขอบยางไว้ นำหินมาจัดวางให้ซ่อนตัวเครื่องกรองให้พ้นสายตาให้ได้มากที่สุด
บริเวณที่น้ำล้นออกแล้วตกไหลลงสู่บ่อต้องยื่นให้พ้นบริเวณหินที่ทับขอบยางเพื่อกันน้ำซึมออกด้านนอกของขอบยาง การวางซ้อนหินบริเวณนี้ควรให้มีการลดหลั่น
กันโดยคำนึงถึงปฏิกิริยาที่น้ำกระทบแล้วเกิดการกระเซ็น การจัดวางจึงมีผลต่อรูปแบบ effect การตกกระทบไหลของน้ำตก
หากต้องการให้มีธารน้ำไหลจากน้ำตกสู่บ่อก็อาจจะเพิ่มระยะและระดับจากขอบสระ และขนาดพื้นที่ที่อำนวยให้ได้ตามต้องการ ธารน้ำก็ไม่ควรจะลึกมาก และมีหินกรวดตลอดแนวธารน้ำเพื่อสร้าง effect ของการไหลของน้ำได้อย่างดี โดยอาจเพิ่มชิ้นใหม่ของแผ่นรองพื้นและยางกันซึมสำหรับบริเวณนี้ต่างหาก แล้วยื่นทับจากขอบสระลงไปไม่ต่ำกว่า 50 cm ใต้ระดับผิวน้ำในสระ แต่งทับด้วยกรวดและหินให้เป็นธรรมชาติ ลดหลั่น คดเคี้ยวตามชอบ การวางหินอาจใช้ซีเม็นช่วยยึดก็ได้ หรือใช้ expandable foam/ ฟมขยายตัว. การวางหินตามขอบแผ่นยางนอกจากเป็นตัวยึดให้แผ่นยางตรึงกับที่ยังกั้นการกระเซ็นออกของละอองน้ำได้ดีอีกด้วย
- การติดตั้งระบบกรองจากผิวน้ำ skimmer ในสระที่ทำจากแผ่นยาง สามารถดูคำแนะนำจากโรงงานในคู่มือการติดตั้งของ skimmer สำหรับระดับที่เหมาะสมได้ หากจะ
ติดตั้งระบบท่อไว้ก่อนแล้วเผื่อท่อไว้ประมาณ 2-3 นิ้วเพื่อเชื่อมเข้าระบบในภายหลังที่ระบบท่ออื่นได้ต่อเชื่อมเข้าที่เกือบหมดแล้ว
และการวางแผ่นยางกันซึมได้รับการติดตั้งโดยสมบูรณ์ เพื่อจะได้สามารถขยับปรับตำแหน่งให้เหมาะสมที่สุดได้ อย่าลืมตรวจสอบระยะของ
ปากทางรับน้ำเข้าสู่ระบบบำบัดจากผิวน้ำจากคู่มือเพื่อให้ปากรับน้ำเข้าของสกิมเมอร์ อยู่ต่ำกว่าระดับผิวน้ำได้เหมาะสมตามที่ออกแบบมาจากโรงงาน
- การจัดวางหิน กรวดรอบขอบสระน้ำประดับจะต้องใช้ศิลปะในการจัดวางที่ดีจึงจะสวยงามได้ องค์ประกอบสำคัญในการจัดวางเช่นนี้
จะเห็นเด่นชัดในการจัดสวนแบบญี่ปุ่น ที่ใช้องค์ประกอบของรูปทรง การตัดกันระหว่างองค์ประกอบที่ต่างลักษณะเช่น ขรุขระ เรีบนวล กลม เหลี่ยม
ใหญ่ เล็ก เรียวโค้ง ทื่อหนา ผสมผสานให้ลงตัว แทรกด้วยพุ่มไม้น้ำที่ฟอร์ม และสีต่างกัน เป็นกลุ่ม หรือโดดเด่น
การใช้วัสดุเช่นหินฟอร์มสวย ๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องยึดโดยใช้ปูนเข้าช่วยหากขนาดใหญ่พอสมควร หากจะใช้เป็นทางเดินผ่านก็อาจจะต้องใช้เพื่อความมั่นคง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบ และความชอบส่วนบุคคลเป็นสำคัญ ถมดินกลับเข้าที่และให้นูนลาดสู่นอกสระอกสระก็อจะช่วยกันสิ่งสกปรกที่ไม่ต้องการจาดสวนส่วนอื่นไหลไป ปนเปื้อนน้ำได้ง่าย และจะต้องนึกถึงวิธีที่จะป้องกันเรื่องนี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้จะเป็นการดีสำหรับสระและคุณภาพน้ำ ลดการดูแลรักษาลงได้อีกมาก
จัดเก็บบริเวณให้เรียบร้อย ล้างสระชำระดินฝุ่นที่หลงเหลือจาการทำงาน แล้วสูบน้ำสกปรกทิ้ง แล้วเติมด้วยน้ำสะอาดจนถึงระดับ 3 - 5 นิ้วจากขอบบน ตรวจสภาพสระ และจัดเก็บรอบพับต่าง ๆ ให้เนียนเรียบเป็นครั้งสุดท้าย รีดรอยยับที่ไม่ต้องการให้เรียบร้อยตามจำเป็นและเพื่อความสวยงาม
- มันมีอีกหลากหลายวิธีในการที่จะแต่งขอบสระน้ำประดับ.
สำหรับสระน้ำประดับสวนส่วนใหญ่จะใส่กรวดและหินเข้าไปรอบ ๆ สระคล้ายจะเป็น
สร้อยที่คล้องที่อยู่รอบคอ ซึ่งจะทำให้ไม่เป็นความงามตามธรรมชาติที่สวยงามนัก
หากท่านปรารถนาที่จะให้สวนน้ำประดับของท่านกลมกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติในสวนอย่างสวยงามแล้ว คงต้องคิดหาวิธีที่ดีกว่านั้นที่จะทำให้ขอบสระน้ำของท่าน
ดูเป็นอันหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมของสวน
นอกจากการใช้หินมาแปะที่ขอบบ่อต่อกันเป็นแผ่นทับซ้อนกันจนสุดขอบ ก็น่าจะใช้การเรียงซ้อนทับเป็นขั้น ๆ จากขอบล่างใต้น้ำ ก็จะดูเป็นธรรมชาติของหินในลำธารทั่วไปกว่า และทั้งยังทำให้น้ำที่เคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาขึ้นแลไม่สามารถเห็นขอบยางโผล่มาล้อสายตาให้เสียอารมณ์ หรืออาจจะใช้หินใหญ่ฟอร์มงามสักก้อนสองก้อนวางเยื้องจากกึ่งกลางและล้อมบริเวณคล้ายวงรอบหาดตามธรรมชาติด้วยหินย่อย กรวดหลากขนาด และส่งเสริมให้น้ำล้นจากขอบมาท่วมปริ่ม ๆ ที่ขอบบางส่วน เติมแต่งด้วยพืชพันธุ์ไม้น้ำที่พุ่งพ้นมาเหนือและมีส่วนรากอยู่ใต้น้ำ เป็นหย่อม ๆ ก็จะดูสวยแบบธรรมชาติมากยิ่งขึ้น คล้ายเป็นหาดเล็ก ๆ ย่อม ๆ ครึ่งวงกลมที่ขอบสระ
การปลูกพันธุ์ไม้น้ำสามารถทำได้ทั้งในกระถาง และปลูกโดยตรงในซอกกรวดที่มีดินบ้างเล็กน้อยก็จะทำให้พืชนั้นเจริญขึ้นมาเองได้เร็วขึ้น
- การกำจัดคลอรีนที่มากับน้ำประปาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อาจต้องใช้ dechlorinator เติมเข้าไปกับน้ำในสระเพื่อสลาย chlorine หรือ
chloramines ให้หมดไป ไม่สามารถทำอันตรายกับพืชและสัตว์น้ำที่จะนำมาลงเลี้ยงได้
- นำพืชน้ำมาลงหลังพักน้ำไว้แล้วหนึ่งวันหลังจากปล่อยให้คลอลีนสลายตัวไปแล้ว จากนั้นก็ให้เติมตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อสร้างแบคที่เรียสำหรับสร้างเป็น
ระบบกรองตามธรรมชาติในสระ และในสารตัวกรอง จากนั้นจึงจะนำปลาหรือสัตว์น้ำอื่นมาลงบ่อ ควรทำการเช็คสภาพน้ำบ่อย ๆ ในระยะแรก
และเช็คการปล่อยให้แบคทีเรียกระจายตัวอย่างทั่วถึงในบ่อ โดยสังเกตจากสภาพน้ำและสภาพและการย่อยสลายของสิ่งหมักหมมในระบบกรอง
- พืชใต้น้ำที่เหมาะจะมีไว้ในจำนวนที่พอเพียงคือ สาหร่ายหางกระรอกระรอก ที่ช่วยสร้างออกซิเจนและดูดซึมอาหารที่จะไปเป็นตัวก่อให้เกิดตะไคร่ในน้ำ
ควรจะมีอย่างน้อยหนึ่งมัดต่อพื้นที่บ่อหนึ่งหรือสองตารางฟุต หากจะเลี้ยงปลาคราฟด้วยก็ต้องแยกพื้นที่หรือหาทางป้องกันสาหร่ายจากการเป็นอาหารของปลาคราฟ
พืชใต้น้ำจัดเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับระบบ Biologic เพื่อการรักษาสภาพน้ำร่วมกับระบบกรอง
และจะต้องมีสัดส่วนที่เพียงพอด้วย เป็นการเหมาะสมที่จะปลูกพืชเหล่านี้ที่บริเวณต้นน้ำที่มีการนำน้ำที่บำบัดกลับเข้าสระ
ในกรณีการเลี้ยงปลากินพืชจะต้องแบ่งทำบ่อเล็กด้านบนเพื่อป้องกันรักษาพืชตระกูลนี้ไว้ในบริมาณที่พอเพียงเสมอ
บัวและพืชน้ำอื่น ๆ ที่สร้างใบโผล่มาลอยแผ่บนผิวน้ำ ก็เหมาะที่จะเป็นร่มเงาให้แก่สัตว์น้ำเป็นอย่างดี สามารถให้ดอกที่มีกลิ่นหอมได้ตลอดปี
เราหวังว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้ท่านเริ่มคิดทำสระน้ำประดับสวนของท่านเองได้เป็นอย่างดี แต่หากยังข้องใจสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง สระน้ำประดับสวนอย่างไร
ก็ติดต่อสอบถามเราได้ทุกเวลา ที่: js.srisuk@gmail.com.com..
ปฏิทิน และข่าวสาร