เมื่อได้สำราญกับสวนสวยด้วยน้ำประดับสักพักเราจะรู้สึกว่าจะต้องเริ่มทำงานเพิ่มเติมเพื่อรักษาสภาพ หรือปรับแต่งสวนให้ได้บรรยากาศที่ดีขึ้น เราก็จะเริ่มจาก

1. สำรวจสภาพโดยรอบว่ามีอะไรขัดหูขัดตาให้รำคาญใจบ้าง

   
   

   ก็เพียงเดินดูรอบ ๆ แบบพินิจพิจารณาขึ้นมาหน่อย ดูว่าเจ้าบ่อน้ำสวยที่เราบรรจงสร้างแต่แรกนั้นมีความเสียหาย บกพร่องบ้างไหม? ก็จัดการแต่งเติมซ่อมแซมเสียตามจำเป็น การเพิ่มนี่นิดโน่นหน่อยบางทีก็สามารถสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ขึ้นได้ จะเพิ่มไฟสักจุสองจุดที่จะเพิ่มความงามช่วงตอนพลบค่ำหลังอาหารให้ออกมารับลมข้างๆ บ่อจะดีไหม หาหินสวย ๆ มาแต่งมุมนี้ใหม่น่าจะดี หรือจะเป็นตุ๊กตาหิน ต้นหลิวแบบบ้านลุงใหญ่คงจะเหมาะที่มุมด้านหลัง อะไรก็ได้ที่ท่านจะสามารถสร้างบรรยากาศที่น่าพอใจ



2. การทำความสะอาดในและรอบบริเวณสระ

   
   

   ไม่ว่าเราจะได้เตรียมการมาอย่าวงดีในตอนที่สร้างแต่เมื่อเวลาผ่านไปความหมักหมมต่าง ๆ ย่อมเข้าเยี่ยมเยียนสวนน้ำประดับของท่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้เราจะพยายามช้อนเอาใบไม้ออกเป็นประจำอยู่แล้วแต่ก็จะต้องมีหลงเหลือไปจมเป็นเลนเป็นตมกองอยู่ที่พื้นบ่อบ้าง เราอาจจะใช้กระชอนช้อนออกไปทิ้ง Manually scoop out เท่าที่จะทำได้ หรือใช้ เครื่องดูดเลนใต้น้ำ /pond vacuum ดูดออกโดยเครื่องดูดเลนใต้น้ำ หรืออาจใช้วิธีกำจัดโดยผลิตภัณฑ์ประเภท Natural Bacteria & Enzyme เช่น GreenEx, Microbe Lift Sludge Away, หรือ Pond-Zyme Plus. ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ต้องใช้สม่ำเสมอตลอดปีจะช่วยให้สภาพสระมีอนามัยสมบูรณ์
   
   

3. ตรวจเช็คสภาพปั้มและแนวท่อส่งน้ำ
   กรณีที่เป็นปั้มติดตั้งภายนอกและมีระบบเปิดปิดอัตโนมัต ให้จับดูเพื่อตรวจสอบความร้อนว่ามีการระบายถ่ายเทออกได้ดีหรือไม่ ไม่ทำงานในสภาพที่ร้อนกว่าปกติ ฟังเสียงการทำงานว่าดังผิดปกติหรือไม่ มีการรั่วซึมตามรอยต่อหรือไม่ แล้วทำความสะอาดให้ปราศจากฝุ่นเกาะจับ ตรวจดูที่ท่อส่งน้ำว่ามี น้ำออกมาได้มากตามปกติหรือไม่ หากปริมาณการส่งลดน้อยลงกว่าปกติอาจเนื่องจากมีการขวางทางน้ำ ณ จุดใดจุดหนึ่งในระบบท่อหรือที่ปั้ม ที่จะต้องกำจัดออกไป ขันรอยต่อต่าง ๆ ให้กระชับแต่ไม่แน่นจนเกินจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดการรั่วซึมก็พอเพียง

   
   
   

4. ตรวจเช็คสภาพระบบกรองและสารตัวกรอง
   ระบบกรองมักจะไม่ค่อยจะมีปัญหามากนักเพราะไม่มีส่วนที่ต้องเคลื่นไหวมาก ส่วนที่จะต้องตรวจสอบจะอยู่ภายใต้ฝาครอบที่สารกรอง และแผ่นกรองดักฝุ่น จะต้องตรวจการไหลเวียนของน้ำที่ผ่านเข้ามาเพื่อการบำบัด คืนสภาพยังคงไหลเวียนไปตามช่องทางที่ควรจะเป็นตามการทำงานของแต่ละระบบ ไม่มีการหมักหมมของสิ่งปนเปื้นที่ดักเก็บไว้ติดตามชั้นกรองต่าง ๆ มากจนปิดกั้นการไหลเวียนตามปกติ หรือกั้นไม่ไห้น้ำไหลผ่าน หากมีก็ต้องนำเอาสารกรอง หรือแผ่นดักเก็บฝุ่นเหล่านั้นออกมาล้างชำระสิ่งแปลกปลอมออกให้มากที่สุด หรือทำตามขั้นตอนที่โรงงานแนะนำมา เช่น การ backwash ระบบ ฯลฯ ตามชนิด และยี่ห้อ ของอุปกรณ์ แล้วนำสาร หรือแผ่นกรองบรรจุเข้าตำแหน่งให้มั่นคงแล้วปิดฝาครอบตามเดิม เป็นเสร็จพิธี สำหรับระบบกรองที่ใช้ Biological ก็ต้องสังเกตการทำงานของแบคทีเลียว่ามีประสิทธิภาพสมบูรณ์สามารถย่อยสลายสิ่งปนเปื้อนในน้ำได้ดี คุณภาพน้ำใสสะอาดไม่ขุ่นมัว หากเริ่มหย่อนประสิทธิภาพก็ควรจะเร่งปฏิกิรกยา และขยายจำนวนเพิ่มโดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ Microbe Lift PL, Microbe Lift Gel Bacteria, or Bio-Filter Booster.

   
   
   

5. ตรวจสอบสภาพน้ำ/Test Water
   Begin testing เรามีอุปกรณ์เพื่อการตรวจสอบสภาพน้ำทางเคมี โดยเฉพาะจำนวนปนเปื้อนของแอมโมเนีย และระดับไนไตร ที่เป็นอันตรายหากมีปริมาณเกินมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ให้ต้องมีการถ่ายเปลี่ยนน้ำเพื่อปรับสภาพ หากการตรวจสอบพบค่าเกิน 0

   
   
   

6. ตรวจสภาพปลา/Condition Fish
   ปลาที่เป็นโรค หรือมีอาการบ่งชี้ว่าไม่สมบูรณ์ควรจะต้องแยกออกมารักษาต่างหาก เพื่อการป้องกันการแพร่เชื้อ Gram-negative bacteria เป็นอันตรายกับปลามาก และจะต้องป้องกันการแพร่ขยาย โดยการใช้ KoiZyme การป้องกันเป็นการง่ายกว่าการที่จะกำจัด หลังเชื้อแพร่หลายมากแล้ว ดูคำแนะนำการใช้เพื่อปกป้องสระเลี้ยงปลาของท่าน Debride DW เป็นยาที่ผสมกับอาหารเพื่อป้องกันปลาจากพยาธิ และป้องกันการติดเชื้ออื่น ๆ ได้ดีด้วย pond salt สามารถใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ disease and pathogens ใช้ MelaFix หรือ PimaFix ใช้ให้ปลาปีละครั้งจะช่วยประกันว่าปลาของท่านจะมีสุขภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะหากพบว่าปลามีสภาพไม่ค่อยดีนัก

   
   
   

7. Feeding
   การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศระหว่างฤดูโดยเฉพาะหลังจากมีฝนหนักเป็นเวลานาน ทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก และมักจะมีผลต่อสุขภาพของสัตว์น้ำที่จะต้องดูแลเพิ่มเติมโดยการให้อาหารเสริมพิเศษระยะหนึ่ง เช่นอาหารประเภท Microbe Lift Weather หรือ Pond Care food. จนสภาพอากาศเป็นปกติก็ใช้อาหารปลาตามปกติต่อไป fish food.

   
   
   

8. พืชน้ำ/Plants
   ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลให้มีสภาพสมบูรณ์เสมอเช่นกัน โดยคัดเอาต้นที่ไม่แข็งแรงออก แล้วหาพันธุ์ไม้ที่เติบโตได้ดีในสภาพสวนของท่านเข้าแทนที่ บัวก็มีปุ๋ยพิเศษที่ผลิตมาสำหรับบำรุงให้ออกดอกมากสม่ำเสมอ และต้นใบสมบูรณ์ การบำรุงดูแลพืชน้ำและเพื่อการขยายพันธุ์และบำรุงรักษา บางครั้งก็จำเป็นต้อง แบ่งกอเพื่อขยายพันธุ์ บางกรณีก็จำเป็นเมือ่พืชน้ำของเราเจริญเติบโตดีจนดูหนาแน่นเกินงามก็สามารถนำขึ้นมาแบ่งกอออกได้ และนำกลับไปปลูกใหม่ การที่มีพืชน้ำในจำนวนที่เหมาะสมเป็นเรื่องดีกว่าปล่อยให้รกหนาทึบ ปริมาณที่เหมาะสมยังทำให้สภาพน้ำโดยรวมดีขึ้นได้ด้วย มีผลต่อจำนวนแอมโมเนีย และไนไตรปนเปื้อนโดยตรงด้วยเช่นกันเพราะมีปฏิกิริยาต่อการเจริญเติบโตของพืช ปริมาณต่อสัดส่วนต่อปริมาตรของน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะ รักษาสภาพที่สวยงามและเหมาะสมของสวนน้ำประดับโดยรวม