-
รายการใน"คู่มือการจัดการสระน้ำ หรือแหล่งน้ำขนาดใหญ่"
บทความนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสมดุลของระบบนิเวศน์ของแหล่งน้ำ!- บทนำการจัดการแหล่งน้ำขนาดใหญ่
- ลักษณะทางกายภาพของแหล่งน้ำ
- ปัญหาและสาเหตุที่ทำให้เกิดคุณภาพน้ำเสื่อมโทรม
- ผลกระทบต่อแหล่งน้ำที่คุณภาพน้ำไม่ดี
- การจัดการแหล่งน้ำเชิงรักษาป้องกัน
- คุณสมบัติระหว่างน้ำพุและเครื่องเติมอากาศ
- การเลือกคุณสมบัติเครื่องเติมอากาศที่เหมาะสม
- ทางเลือกอื่นๆ ในการแก้ปัญหาของแหล่งน้ำ้
- บทสรุปการจัดการแหล่งน้ำขนาดใหญ่
เราสามารถที่จะแบ่งพื้นที่ในผืนน้ำตามตำแหน่งที่แตกต่างกันได้ ทั้งลักษณะรูปร่างของแหล่งน้ำ (morphometry)
ตามรูปที่ 2a, ทั้งลักษณะของขอบบ่อ (morphometry) ตาม(รูปที่ 2b), จัดเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับผู้จัดการแหล่งน้ำที่จะต้องใช้ในการ
พิจารณา
ในพื้นที่ของแหล่งน้ำนี้จะมีโซนที่จะมีผลอย่างสูงที่จะกระทบกระเทือนคุณภาพน้ำได้เป็นอย่างมาก และเป็นแหล่งที่จะต้องให้ความสำคัญในการ
เข้าไปจัดการแก้ไขดูแล โซนเหล่านี้จะรวมถึง littoral, limnetic, euphotic, และ benthic zones.
มาดูรายละเอีอดเกี่ยวกับโซนเหล่านี้กัน
ลักษณะรูปร่างของแหล่งน้ำ และรูปร่างของขอบบ่อจะส่งผลอย่างมากต่อการปนเปื้นจากภายนอกสู่น้ำในแหล่งน้ำรวมถึงทั้งแนวตั้ง แนวนอน
ส่วนเว้าโค้ง ปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญที่จะก่อให้เกิดและดูแลรักษาสมดุลของระบบชีวภาพ
Morphometry หรือรูปร่างของแหล่งน้ำ มีผลอย่างมากต่อการที่จะได้รับผลกระทบจากการปนเปื้อนในแนวราบ แหล่งน้ำที่มีลักษณะแคบยาว
หรือแบบคูคลองมักจะต้องได้รับการจัดการเรื่องคุณภาพน้ำมากเนื่องจากมีปัญหา แหล่งน้ำใหญ่ที่กว้างและแยกออกต่างหากจะสร้างสภาพทาง
กายภาพที่ปิดกั้นการถูกปนเปื้อน ปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำจะเกิดขึ้นได้ง่ายเช่นกัน
Morphology จะเป็นเรื่องลักษณะรูปร่างของขอบตลิ่งของแหล่งน้ำ หรือทะเลสาป จะส่งผลกระทบในแนวดิ่งและจำนวนความหนาแน่นของ
พืชน้ำ ได้เป็นอย่างมากเรา พืชต่างชนิดก็เจริญเติบโตได้ดีในระดับน้ำที่ต่างกันออกไป
สำหรับรายละเอีอดเกี่ยวกับผลกระทบจากรูปร่างลักษณะของตลิ่งเราจะเริ่มต้นจากการศึกษาแต่ละลักษณะเฉพาะของตลิ่งแต่ละแบบ ต่อไปนี้
อันดับแรก littoral zone (รูปที่ 2b) จะเป็นส่วนพื้นที่ของแหล่งน้ำที่ลาดเอียงจากตลิ่งออกลงสู่น้ำ ส่วนนี้จะเป็นส่วนต่อเนื่องเชื่อม
กันระหว่างน้ำล้นทิ้งจากแหล่งระบายออกและน้ำที่อยู่ในแหล่งน้ำ ขนาดของโซนต่อเนื่องนี้จะขึ้นอยู่กับความลึกของแหล่งน้ำ ความใสสะอาด
และลักษณะคลื่นน้ำ แสงอาทิตย์ ลักษณะของคลื่น และท้องพื้นของแอ่งน้ำจะมีผลอย่างมากในโซนนี้ โดยปกติทั่วไปโซนนี้จะเป็นพื้นที่ที่ท้าทาย
ความสามารถในการจัดการคุณภาพน้ำของแหล่งน้ำนั้น ๆ
พืชน้ำมักจะมีให้เห็นอยู่มากมายในบริเวณริมตลิ่งในโซนต่อเนื่องนี้ ชนิดและความหลากหลายจะขึ้นอยู่กับความลึกของโซนนี้ จะมีสาหร่าย
หลากหลายสายพันธุ์จะมีให้เห็นมากในโซนนี้เช่นกัน และมักจะเป็นสัดส่วน 90% ของพืชพันธุ์ที่จะพบได้ในแหล่งน้ำนั้น ๆ รวมกัน สาหร่าย
ที่พบมักจะเกาะอยู่กับ macrophytes พืชน้ำใหญ่ ๆ ที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะโผล่ครั้งแรกจากรากพืชน้ำประเภทกก ที่เจริญ
ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในโซนนี้ สาหร่ายและพืชน้ำเล็ก ๆทำให้มีพืชที่คอยทำความสะอาดตามธรรมชาติเช่น micro floraและ
zooplankton ก็ผุดเป็นดอกเห็ดเช่นกัน zooplankton เป็นสัตว์เซลเดียวคล้ายพวก protozoan, micro crustaceans,
rotifers และที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่นพวก aquatic worms, crayfish, insect larvae,
และปลา
พื้นที่ในวงจรของแหล่งน้ำลำดับต่อไปคือ Limnetic zone เป็นโซนส่วนของผืนน้ำที่เปิดกว้าง (รูปที่ 2b) นี่คือพื้นที่ในแหล่งน้ำหรือทะเล
สาปที่เริ่มจากส่วนที่ตัดกับโซนพื้นที่ต่อเนื่อง (littoral zone) และยื่นล้ำสู่ผืนน้ำส่วนที่ผืนน้ำเปิดกว้างของแหล่งน้ำนั้น ตลิ่งและก้นบึ้ง
ของผืนน้ำจะส่งผลกระทบน้อยมากต่อคุณภาพที่โซนนี้ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในน้ำ สาหร่ายน้ำ ดอกบัว หญ้าที่ผุดจากผิวน้ำ สัตว์ไม่มีกระดูก
สันหลัง และปลามักจะถูกพบมากในโซนนี้ โซนน้ำส่วนนี้จะเป็นโซนที่ง่ายขึ้นที่จะดูแลรักษาจัดการ
ส่วนที่สามที่แยกออกมาเพื่อการศึกษาคือส่วนบนของผืนน้ำ ที่ได้รับแสงอย่างพอเพียง หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า epilimnion (รูปที่ 2c).
นี่เป็นพื้นที่ที่การสังเคราะห์แสงโดยพืชพวกสาหร่ายและพืชน้ำอื่นจะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั้งโซน ปล่องน้ำคือส่วนแนวตั้งเป็นแท่งน้ำที่ตั้งอยู่
ในผืนน้ำ เป็นส่วนที่ถูกใช้เมื่อมีการพูดคุยกันถึงลักษณะของแหล่งน้ำหรือทะเลสาปนั้น ๆ เช่นเดียวกับระดับอ๊อกซิเจน อุณหภูมิ และปริมาณ
อาหารพืชที่ผสมปนเปื้อนอยู่กับผืนน้ำ
พื้นที่ในส่วนที่ 4 ของระบบนิเวศน์ในแหล่งน้ำที่เราจะพิจารณาต่อคือ euphotic zone หรือ photozone
โซนรับแสง (รูปที่ 2e) ในชั้นบนของโซนนี้ของแหล่งน้ำจะได้รับแสงอาทิตย์ที่เจาะทะลุเข้าไปช่วยการเจริญเติบโตของพืชสีเขียว เราจะ
พิจารณาถึงผลกระทบของแสงแดดต่อระบบนิเวศน์ของแหล่งน้ำในอีกไม่ช้าต่อไปนี้ และท้ายสุด ส่วนของ benthic zone ซึ่งเป็นส่วนล่าง
ของผืนน้ำ (รูปที่ 2e) ในโซนส่วนล่างนี้จะประกอบไปด้วยโคลนตมและดินและมักจะมีความต้องการอ๊อกซิเจนในปริมาณสูง
ปฏิทิน และข่าวสาร